8 เรื่องชวนรู้ของ Co-Working Space 2018
ปัจจุบันประเทศไทยมี Co-working Space เกิดขึ้น และมีหลากหลายรูปแบบที่ไม่เหมือนกับ Co-working Space ในยุคแรกๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในเมืองไทยเท่านั้น แต่เป็นเทรนด์การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วย Co-working Space จึงไม่ใช่สถานที่สำหรับนั่งทำงานเฉยๆ อีกต่อไป หากแต่มีอะไรอีกหลายอย่างมากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และชีวิตของคนในปัจจุบัน วันนี้เรารวบรวม 8 สิ่งน่ารู้เกี่ยวกับธุรกิจนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลกมาฝากกันครับ
1. ความยืดหยุ่น คือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง ความยืดหยุ่นในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสถานที่ที่กว้างขวาง แต่เป็นเรื่องของแพ็กเกตที่มีความยืดหยุ่น เหมาะสมต่อความต้องการของผู้มาใช้งานที่หลากหลาย สำหรับตัวคนทำธุรกิจนี้แล้ว ก็ถือว่าได้ประโยชน์จากลูกค้าขาจรอีกมาก
2. การขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการสำรวจตั้งแต่ปี 2011-2017 มีธุรกิจ Co-working Space เปิดใหม่กว่า 700 แห่งทั่วโลก คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และอาจมีจำนวนมากถึง 3.8 ล้านแห่งในปี 2020 หรืออาจถึง 5.1 ล้านแห่งในปี 2022
3. ดีไซน์สร้างการมีส่วนร่วม Co-working Space หลากหลายที่ที่ประสบความสำเร็จมีการออกแบบให้ดูสนุก ดึงดูด ให้ประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าที่มาใช้งาน เพราะบรรยากาศนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากทำงาน หรือผ่อนคลายแล้ว การดีไซน์ที่ดีคือการจัดวางฟังก์ชั่นของสถานที่ให้ลูกค้าสามารถสร้างปฎิสัมพันธ์ หรือสานสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ที่มาใช้บริการใน Co-working Space จนเกิดเป็นไอเดียใหม่ได้เช่นกัน จึงไม่น่าแปลกที่ Co-working Space บางที่มีฟิตเนส หรือแม้แต่บางที่ก็มีแนะแนวการศึกษารวมอยู่ด้วย
4. สัมพันธ์สร้างสรรค์ สร้างการเติบโต ด้วยดีไซน์ที่กระตุ้นให้คนมีความแอคทีฟ อยากทำงาน อย่างที่ได้ว่ากันในข้อที่แล้ว Co—working Space เป็นที่รวมกลุ่มคนหลากหลายสายอาชีพไว้ด้วยกัน ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับลูกค้า หรือบุคคลที่เข้ามาใช้สถานที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ต่อยอดไอเดีย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ Co-working Space เป็นแหล่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมต่างๆ ได้เกิดขึ้นจริง
5. บ้าน โรงแรม โรงเรียน กลายเป็นอีกหนึ่งนิยามสำหรับธุรกิจนี้ ภายใต้ความคิด “บริการด้วยพื้นที่” ขยายขีดความสามารถการให้บริการของ Co-working Space ให้เป็นมากกว่าพื้นที่ที่คนมานั่งทำงาน เพราะบางคนใช้ชีวิต พบปะเพื่อน ค้างแรม หรือแม้แต่หาความรู้จากที่นี่
6. รวมกันเราไม่เหงา หรืออาจเรียกว่าเป็นพื้นที่รวมกลุ่มคนเหงา ทำงานเดี่ยวๆ ตัวคนเดียวก็คงจะไม่ผิด จากการสำรวจ คนที่มีงานลักษณะที่ต้องทำคนเดียว ไม่ใช่เฉพาะแค่เหล่าฟรีแลนซ์เท่านั้น และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในปัญหาของพวกเขาคือ “ความเหงา” Co-working Space จึงทำให้คนเหงาเจอคนเหงา มันก็เลยเข้าใจกัน ได้เพื่อนคลายความเหงาว่างั้น
7. ตำนานบทใหม่ นอกจากเป็นแหล่งรวมฟรีแลนซ์แล้ว ปัจจุบันมีการลงทุนของเหล่าบริษัทใหญ่มากมายใน Co-working Space คาดการณ์ว่าบริษัทใหญ่ๆ จะร่วมลงทุน แชร์พื้นที่ในอนาคตถึง 50% ของพื้นที่เลยทีเดียว เทรนด์นี้มีความเป็นไปได้สูง เพราะเหล่าบริษัทใหญ่อย่าง Facebook, IBM และ Microsoft ก็มีการเริ่มลงทุนกันแล้ว
8. สมาคมตลาดอสังหาฯ เปลี่ยนไป จากเหตุผลทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้ Co-Working Space ดึงดูดให้บริษัทต่างๆ และเหล่าบริษัทอสังหาฯ เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น หรือแม้แต่พัฒนา ใส่ใจในประสบการณ์ของลูกจ้างและลูกค้ามากขึ้นด้วย จะเห็นได้จากบริการที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย อย่างการเช่าระยะสั้น หรือพื้นที่ทำงานที่แตกต่างไปจากบริษัทแบบเดิมๆ เป็นการกระตุ้นและปรับตัวให้ทันกับยุคสมัย
8 ข้อที่ว่ามานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการทำธุรกิจ Co-working Space ที่ส่งผลกับชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ และธุรกิจในโลกปัจจุบัน ในอนาคตธุรกิจนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหนบ้าง เราคงต้องคอยติดตามดูกันต่อไป
Source: blog.cushwake.com by Jeff Lessard and the Strategic Consulting team
http://blog.cushwake.com/americas/coworking-space-in-2018.html
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อให้เราติดต่อกลับ
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู