พลัส พร็อพเพอร์ตี้ โฟกัส รายงานผลการวิจัยรายครึ่งปี กรกฎาคม – ธันวาคม 2561
สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียม ครึ่งปีหลัง 2561 และแนวโน้ม 2562
ฝ่ายวิจัยและพัฒนากลยุทธ์
ตลาดคอนโดฯ เติบโตจากการ “เร่ง” ซื้อขายก่อนประกาศใช้มาตรการ
ตลาดคอนโดฯ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบการเปิดขายโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก โดยในช่วงปลายปี 2561 ยังคงพบว่ามีอุปทานใหม่สูงสุดในรอบ 4 ปี อีกด้วย ในขณะที่อุปสงค์ยังตอบรับสอดคล้องกับจำนวนอุปทาน
แต่คาดว่าตลาดคอนโดฯ ในปี2562 จะต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากสถานการณ์คอนโดมิเนียมเหลือขายที่ยังคงมีปริมาณสูง, มาตรการควบคุมสินเชื่อบ้านแบบใหม่ที่ให้เพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยกำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ช่วงปลายปีจนถึงไตรมาสแรกของปีนี้จะเห็นผู้ประกอบการต่างเร่งระบายสินค้ากันมากขึ้น
อุปทาน :
ปัจจุบันมีอุปทาน 100,029 ยูนิตหรือเพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากการเปิดโครงการใหม่ในปลายปี
อุปสงค์ :
มีอุปสงค์ตอบรับไปแล้ว 41,500 ยูนิต หรือคิดเป็นยอดขาย 41% จากการรีบตัดสินใจซื้อก่อนใช้มาตรการ
อุปทานเสนอขายใหม่ :
พบอุปทานเปิดตัวใหม่ในปี 2561 มากที่สุดในรอบ 4 ปี เติบโต 16% พบอุปทานใหม่จำนวน 47,164 ยูนิต
ราคาขาย :
ระดับราคาไม่เกิน 130,000 บาท/ตร.ม. นั้นมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นถึง 86%
อุปทานเสนอขายใหม่ในตลาดคอนโดมิเนียม
อุปทานใหม่ของตลาดคอนโดฯปี 2561 เพิ่มขึ้น 16% เนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่เกือบทุกพื้นที่ โดยจากการขยายระบบรถไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างแหล่งงานในใจกลางเมืองกับบริเวณชานเมือง ทำให้มีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในบริเวณที่มีการขยายเส้นทางและสถานีออกไป
อุปทานและอุปสงค์ในตลาดคอนโดมิเนียม
· ตลาดคอนโดมิเนียมเติบโตได้ดีในเขตชานเมืองที่มีการขยายเส้นทางและสถานีออกไป
· คอนโดฯถือเป็นสินค้าคู่แข่งกับทาวน์เฮาส์ในบริเวณนี้ เพราะมีระดับราคาใกล้เคียงกันแต่ได้เปรียบเรื่องการเดินทางเข้าสู่เมืองด้วยรถไฟฟ้า
อุปทานโดยรวมในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 100,029 ยูนิต จากอุปทานของโครงการใหม่ที่เปิดเสนอขาย แต่ทำให้จำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายสะสมเยอะขึ้นตามไปด้วย
อุปสงค์ให้การตอบรับที่ 41,500 ยูนิต หรือคิดเป็นยอดขาย 41 % โดยอุปสงค์รวมในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 เพิ่มขึ้น 7 % จากช่วงเดียวกันในปีก่อน โดยเป็นยอดขายที่เติบโตอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพชั้นในและเขตพื้นที่โดยรอบที่มีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า
ระดับราคาขายในตลาดคอนโดมิเนียม
ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 กลุ่มสินค้าหลักเป็นอุปทานระดับราคาไม่เกิน 130,000 บาทต่อตารางเมตร หรือมีราคาต่อห้องไม่เกิน 3.5 ล้านบาท จะมีผู้ซื้อให้การตอบรับดีสม่ำเสมอ โดยเฉพาะระดับราคา 100,000 – 129,999 บาทต่อตารางเมตร ที่ส่วนใหญ่เปิดขายบริเวณรัชดาภิเษก มีอัตราการเติบโตของผู้ซื้อสูงถึง 86% จากปีก่อน และมียอดขายเกิดขึ้นไปแล้วประมาณ 45%
ขณะที่โครงการที่ตั้งอยู่แถบชานเมืองบริเวณส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าและมีระดับราคา 70,000 – 99,999 บาทต่อตารางเมตร หรือมีราคาต่อห้องไม่เกิน 2.50 ล้านบาท ก็เป็นอีกกล่มหนึ่งที่ผู้ซื้อให้ความสนใจเช่นกัน โดยมักเปรียบเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์และพบว่ากลุ่มลูฏค้าที่เลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพราะทำเลและความสะดวกในการเดินทางนั้นมีทิศทางเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
คลิกเพื่อดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็ม