ลงทุนอสังหาฯ ด้วย “โทเคนดิจิทัล”
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้โลกเราขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ไม่เว้นแม้แต่โลกการลงทุนที่ในช่วงนี้กระแสการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังมาแรง เห็นได้จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเองก็ได้จัดตั้งบริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น
สำหรับประเทศไทยเองมี 2 ประเภทที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่คุ้นเคยกันดีอย่างเช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) และอีเธอร์เลียม (Ethereum) ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือโทเคนดิจิทัล (Digital Token) ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ในประเทศ แต่มีเคสที่ประสบความสำเร็จแล้วในต่างประเทศ
วันนี้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขอยกตัวอย่างในวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้นำไปพัฒนาต่อยอดการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านโทเคนดิจิทัลได้อย่างน่าสนใจและเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในปี 2561 อย่างกรณีของ ASPEN Coin ซึ่งเป็นโทเคนของโรงแรม The St. Regis Aspen Resort ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการเปลี่ยนแปลงการระดมทุนในรูปแบบเดิมสู่สินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกและสามารถระดมทุนไปในมูลค่ากว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ รูปแบบการระดมทุนก็เป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่นักลงทุนตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแล เพียงแต่ทำออกมาในรูปแบบดิจิทัลโดยอาศัยเทคโนโลยี Blockchain โดยมีหน่วยการลงทุนเป็นเหรียญโทเคน ซึ่งก็เปรียบได้กับการลงทุนในหุ้นนั่นเอง ฉะนั้นในกรณีนี้ การนำอสังหาริมทรัพย์เสนอขายในรูปแบบโทเคนจึงมีความโปร่งใส มีสภาพคล่องสูงไม่ต่างจากการลงทุนในหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์
นักลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ด้วยการซื้อขายผ่าน Digital Asset Exchange หรือที่เรียกว่าศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และมีข้อดีคือสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โทเคนดิจิทัลเป็นรูปแบบการลงทุนที่มีการอ้างอิงกับสินทรัพย์การลงทุนปกติ (Traditional Asset) อาทิ สินทรัพย์ที่จะมาทำเป็นโทเคนอาจจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น Luxury Hotel, อาคารสำนักงาน Office Building ขนาดใหญ่, Luxury Retail โดยนักลงทุนเองจะไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์โดยตรงแต่มีสิทธิหรือได้รับผลประโยชน์ในกิจการหรือโครงการนั้นๆ เพียงแต่สิทธิของผู้ถือโทเคนดิจิทัลนั้น จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดสิทธิจากผู้ออกโทเคน เช่น ส่วนแบ่งรายได้ค่าเช่า หรือสิทธิประโยชน์ในการได้รับสินค้าหรือบริการ
จุดเด่นของการแปลงสินทรัพย์เดิม เช่น อสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัล จะมีต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำลง ผู้ลงทุนจึงมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีเงินลงทุนจำนวนไม่มากสามารถร่วมลงทุนได้ และที่สำคัญได้มีการอ้างอิงกับสินทรัพย์การลงทุนปกติ มีระบบรักษาความปลอดภัยและการคุ้มครองผู้ลงทุนในทุกโทเคนที่ซื้อขาย ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนได้
และนับเป็นสัญญาณที่ดีของการลงทุนรูปแบบใหม่ของประเทศไทย ที่เมื่อเร็วๆ นี้ เราได้เห็นข่าวว่ามีบริษัทหนึ่ง (อีอาร์เอ็กซ์) ได้ประกาศเปิดแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการเทรดโทเคนดิจิทัลรายแรกของไทยแล้ว ซึ่งคาดว่าไม่นานเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ที่เป็นโทเคนดิจิทัล ที่ใช้โครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ในการระดมทุนเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
และแน่นอนครับ หากลงทุนในโทเคนกับบริษัทที่ได้รับอนุญาต จะมีความมั่นใจได้ว่ามีสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จาก ก.ล.ต. ที่เน้นการออกผลิตภัณฑ์โทเคนดิจิทัลที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากลและมีกลไกในการคุ้มครองนักลงทุน
นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันครับว่าโทเคนดิจิทัลนี้จะน่าสนใจและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการการระดมทุน และนักลงทุนทั่วไปได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การลงทุนแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลประกอบให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนครับ
และหากสนใจเรื่องการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. ครับ
-
ถึงเวลาเก็บอสังหาฯ เข้าพอร์ตการลงทุน
-
อสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เร่งเครื่องกระตุ้นกำลังซื้อ
-
การลงทุน EEC เริ่มกลับมาส่งสัญญาณบวก ส่งผลต่ออสังหาฯ โดยรอบอย่างไร