พลัสฯ พารู้ IOT โซลูชันใหม่ของระบบรักษาความปลอดภัย ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบันไม่ว่าเราจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน แทบจะทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ตทั้งสิ้น ด้วยการเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมากในยุคนี้ จึงทำให้เกิดพัฒนาการการปรับใช้อินเทอร์เน็ตในด้านต่างๆ ที่นอกเหนือจากการเป็นตัวกลางรับส่งข้อมูลเพื่อการสื่อสาร ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคของ Internet of Things (IoT) ที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด
หนึ่งในนั้น คือ การที่ IoT ถูกนำมาพัฒนาเชื่อมต่อให้เกิดระบบอำนวยความสะดวกภายในครัวเรือน ตั้งแต่อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีวี ตู้เย็น หรือแม้กระทั่งเครื่องชงกาแฟ เพื่อจุดประสงค์ในการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น
ที่ก้าวล้ำไปกว่านั้นคือ การนำมาพัฒนาเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและป้องกันภัยให้กับผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินภายในที่พักได้มากขึ้น IoT จึงถือเป็นโซลูชันใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจับตา
ดังนั้นมารู้จัก IoT คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง และการนำมาใช้เพื่อสนองความต้องการของลูกบ้านยุคใหม่ได้อย่างไร
IoT คือ?
IoT มาจากคำว่า Internet of Things คือ สัญญาณเครือข่ายที่เชื่อมต่อสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน ด้วยอินเทอร์เน็ต เซนเซอร์ โปรแกรม หรือเทคโนโลยีอื่นๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ระบบ ที่เชื่อมหากันติดต่อ แลกเปลี่ยน ถ่ายโอนข้อมูลกันได้ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต
คำว่า Internet of Things หรือ อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งนั้น ได้อ้างอิงมาจาก Kevin Ashton ผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีของอังกฤษ บุคคลสำคัญที่ร่วมก่อตั้ง Auto-ID Center ที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ ซึ่งสร้างระบบมาตรฐานระดับโลกอย่าง RFID และเซนเซอร์อื่นๆ โดยเขาเป็นผู้ที่ใช้คำว่า Internet of Things เป็นครั้งแรกในการบรรยายโปรเจกต์สำคัญดังกล่าว
และเขาก็ได้ให้คำนิยามไว้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดก็ตามที่สามารถสื่อสารกันได้ก็ถือเป็น “Internet-Like” หรือก็คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สื่อสารได้แบบเดียวกับระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งคำว่า “Things” ในที่นี้เป็นการใช้แทนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ว่านั่นเอง
การใช้งาน IoT ในปัจจุบัน
ปัจจุบันได้มีการนำ IoT มาใช้งานในแทบจะทุกด้านในวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ จนทำให้เราคุ้นเคยผ่านคำว่า Smart คำที่นำหน้ากับการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ด้วย IoT ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในชีวิตประวันอย่าง อุปกรณ์ Smart Gadget ต่างๆ หรือระบบควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน และระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะอย่าง Smart Home รวมถึง Smart City และ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ Smart Grids เป็นต้น
หรือจะเป็นการนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการนำ IoT มาพัฒนาเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อสร้างทางเลือกการใช้งานที่ง่ายขึ้นให้กับผู้บริโภค เช่น เทคโนโลยี Connected Car ในวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือในวงการอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่าง Connected Health Digital Health หรือ Smart Health ด้วย
และยังรวมไปถึงการนำมาใช้กับการเกษตรในรูปแบบของ Smart Farm ที่กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของ IoT
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น: ด้วยคุณสมบัติของ IoT ที่สามารถเก็บข้อมูล ประมวลผล ส่งผ่าน และแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถรองรับข้อมูลในปริมาณมหาศาลได้ IoT จึงมีความแม่นยำและทำงานได้รวดเร็วกว่าการทำงานของมนุษย์ที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง ทำให้ IoT สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานใดๆ ก็ตามให้เพิ่มมากขึ้นได้
อำนวยความสะดวกในการทำงานยิ่งขึ้น: อีกประโยชน์เด่นของ IoT คือเพิ่มความสะดวกในการทำงานและการใช้งานต่างๆ เพราะเทคโนโลยีสามารถทำงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพได้ในส่วนที่เป็น Routine ทำให้ผู้ใช้เทคโนโลยี IoT มีเวลาทำงานในด้านอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อีกขั้นหนึ่งด้วย
ทำงานได้โดยปราศจากข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่: ด้วยการทำงานผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ต IoT จึงไร้ข้อกำจัดทางด้านสถานที่และเวลา ยกตัวอย่างเช่น การทำงานในระบบความปลอดภัย IoT สามารถตรวจจับ เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนการรุกล้ำของที่พักอาศัยต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงช่วยเสริมความมั่นใจในความปลอดภัยได้เพิ่มมากขึ้นจากการใช้แรงมนุษย์ในการเฝ้าระวัง
เพิ่มความแตกต่าง น่าสนใจในกิจการให้กับผู้บริโภคหรือนักลงทุน: สำหรับผู้ผลิต การนำ IoT เข้ามาใช้งานไม่ว่าจะด้านใดของกิจการ ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้กับกิจการหรือผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้ไม่น้อย ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่สูงของ IoT จึงสามารถสร้างความมั่นใจและดึงดูดให้กิจการมีความโดดเด่น ทันสมัยมากกว่า เช่น การใช้ IOT MANAGEMENT SYSTEM กับระบบรักษาความปลอดภัยในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายในที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นที่น่าจับตา
เทคโนโลยี IoT กับระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับที่อยู่อาศัย
ด้วยประโยชน์หลายๆ ด้านของ IoT โดยเฉพาะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จากการควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องควบคุมที่ตัวเครื่องโดยตรงผ่านปุ่มหรือสวิตช์อีกต่อไป ปัจจุบันจึงมีการนำระบบ IoT มาใช้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการนำมาพัฒนาระบบความปลอดภัยภายในที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งของที่พักอาศัยไม่ว่าจะเป็น บ้านพักอาศัยแบบโครงการหรือคอนโดอีกประการเลยก็คือ ระบบรักษาความปลอดภัยที่นอกเหนือจากการดูแลความปลอดภัยทั่วๆ ไปบริเวณภายนอกโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. แล้ว
การมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมด้วยการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ IoT จะสามารถช่วยเพิ่มการเฝ้าระวัง ป้องกัน และแจ้งเตือนเหตุที่มีความเสี่ยงต่อการบุกรุกหรืออันตรายที่จะเกิดขึ้นภายในที่พักอาศัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอย่าง กล้องวงจรปิด ประตูรั้ว การตรวจสอบและเตือนภัยด้วยเสียงแบบไร้สาย โดยสั่งการผ่านสมาร์ตโฟน เป็นต้น
ระบบ IoT กับการนำมาใช้ในวงการอสังหาฯ
ปัจจุบันในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม ก็มีให้เลือกหลากหลายตามระดับราคา ที่ตั้งหรือทำเล ซึ่งนอกจากปัจจัยอื่นๆ ทั่วไปที่นำมาประกอบการพิจารณาเพื่อเลือกที่อยู่อาศัยในแบบที่เราต้องการมากที่สุดแล้ว ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอีกเรื่องที่จำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษก่อนตัดสินใจซื้อ
เพราะอย่าลืมว่า เมื่อเราเลือกที่ใดที่หนึ่งแล้ว เราจะต้องอาศัยอยู่ไปอีกในระยะยาว ยิ่งในยุคของการใช้เทคโนโลยี การมีเทคโนโลยีในการอยู่อาศัยที่มีประสิทธิภาพมาช่วยอย่าง ระบบ IoT หรือ IOT MANAGEMENT SYSTEM จึงเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยในที่พักอย่างได้เปรียบที่สุด
อุ่นใจไปกับเทคโนโลยีดูแลความปลอดภัยอัจฉริยะ LIV24
LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัย และระบบควบคุมอาคารเต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย เพื่อการทำงานดูแลความปลอดภัยของส่วนกลางภายในอาคารอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ศูนย์ควบคุมตั้งอยู่ที่อาคารสิริแคมปัส ที่ทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ใช้บริหารจัดการด้านวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในโครงการที่พักอาศัยในโครงการจากการพัฒนาร่วมกันกับทางแสนสิริ จากแนวคิดห้องปฏิบัติการทางทหาร หรือ War Room ที่มีรูปแบบการเฝ้าดูเหตุการณ์และรับคำสั่งการ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
สู่ศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ด้วยการผสานเทคโนโลยีเพื่อการเชื่อมต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ อย่างอัจฉริยะ ให้มีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ทุกคนรู้สึกอุ่นใจได้ตลอดการดำเนินชีวิตประจำวัน
เจาะลึกระบบ LIV 24
LIV-24 คือ บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัย และควบคุมอาคารเต็มรูปแบบ ที่ทาง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และ แสนสิริ ร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อการทำงานดูแลความปลอดภัยของส่วนกลางภายในอาคารอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม สถานศึกษา คลังสินค้า โรงงาน และ Community Area ที่ช่วยให้พลัสฯ สามารถบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการทำงานที่ครอบคลุมดังนี้
ตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติทาง CCTV - Video Analytics: ปลอดภัยมั่นใจยิ่งขึ้น ด้วยระบบ CCTV - Video Analytics ใน LIV-24 เพราะการทำงานด้วยระบบ Detect Monitoring ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และตรวจดูเหตุการณ์ต่างๆ ภายในอาคาร โครงการได้อย่างทั่วถึง ละเอียด และครบทุกมุม
Digital Fence รั้วอัจฉริยะ ที่ป้องกันได้มากกว่า: Digital Fence คือ ระบบป้องกันแนวรั้วอัจฉริยะที่คอยตรวจจับความผิดปกติได้ทั่วบริเวณโครงการ สามารถส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังศูนย์ควบคุม หากตรวจพบการบุกรุกจากทั้งบุคคลภายนอก และสัตว์เลื้อยคลานที่เป็นอันตราย ทำให้ผู้ดูแลหรือนิติบุคคลสามารถแก้ไขและยับยั้งการเกิดเหตุอันตรายได้ในทันที
Real-time Guard Tour เครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่: มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่มากยิ่งขึ้นกับ ระบบ Real-time Guard Tour ที่จะช่วยตรวจสอบสถานการณ์เดินตรวจตราตามจุดของ รปภ. ในโครงการแบบเรียลไทม์ หากมีการละเลยหน้าที่หรือการตรวจตราที่ไม่ทั่วถึงของเจ้าหน้าที่ทางศูนย์ควบคุมก็จะสามารถทราบได้ทันที
IOT FACILITY MANAGEMENT เทคโนโลยีการจัดการระบบวิศวกรรมส่วนกลาง: ไว้วางใจได้มากขึ้น เพราะนอกจากการเฝ้าระวังความปลอดภัยภายนอกแล้ว LIV-24 ยังได้ผสานระบบตรวจสอบความผิดปกติทางวิศวกรรมส่วนกลางอีกด้วย เพื่อการดูแลทั้งระบบสาธารณูปโภค และการแจ้งเตือนเหตุขัดข้องต่างๆ ทางระบบวิศวกรรมภายในอาคาร ระบบน้ำ ไฟ ต่างๆ ที่ทำงานด้วยการนำข้อมูลย้อนหลังของอุปกรณ์ต่างๆ มาวิเคราะห์ผ่านระบบ AI แจ้งเตือนไปยัง LIV-24 ทีมงานเพื่อตรวจสอบ และประสานไปยังโครงการเพื่อเข้าระงับเหตุทันที
ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ IoT มาพัฒนาเข้ากับระบบรักษาความปลอดภัย จึงทำให้ LIV-24 เป็นบริการดูแลความปลอดภัยที่ทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีผสานกับการทำงานร่วมกับมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จึงทำให้สามารถตรวจจับวิเคราะห์ประมวลผลได้แม่นยำ 100% ในระดับ Real Time
และทำการส่งสัญญาณเตือนให้เข้าตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นสำหรับโครงการที่พักอาศัย การใช้ระบบ IoT จึงถือเป็นโซลูชันใหม่ของระบบรักษาความปลอดภัย ที่จะตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ สร้างความอุ่นใจในการเลือกที่พักอาศัยได้มากขึ้น
*หมายเหตุ: เงื่อนไขการดูแลความปลอดภัยขึ้นอยู่กับ Features และ Package ที่โครงการเลือกใช้
𝐋𝐈𝐕-𝟐𝟒 บริการเทคโนโลยี ระบบสังเกตการณ์อัจฉริยะ เป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวในไทยที่มีศูนย์ควบคุมฯ บริการครบวงจร ทำงานแบบไร้รอยต่อ เมื่อเกิดเหตุ ระบบจะประสานผู้เชี่ยวชาญเข้าระงับเหตุและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว สนใจรายละเอียดการติดตั้ง LIV-24 ในโครงการของคุณ 02 688 7555 หรือ plus.co.th/liv24
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู
บทความที่เกี่ยวข้อง
LIV-24 เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ เพื่อ Commercial Building แห่งอนาคต
อาคารเพื่อการพาณิชย์ หรือ Commercial Building เป็นธุรกิจอีกประเภทหนึ่งที่ถือว่ามีความหลากหลายตั้งแต่ลักษณะของอาคาร วัตถุประสงค์ในการใช้งาน เป็นสถานที่ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า ซึ่งมีการใช้งานพื้นที่สำหรับรองรับคนจำนวนมากที่หมุนเวียนเข้ามาใช้อาคารในแต่ละวัน อ่านเพิ่มเติม
“ระบบรักษาความปลอดภัยอาคารเพื่อการพาณิชย์” มอบความปลอดภัยให้พร้อมกับทุกคน
ทำความรู้จักกับระบบรักษาความปลอดภัยอาคารเพื่อการพาณิชย์ ที่ช่วยป้องกันและยับยั้งเหตุร้ายได้อย่างทันท่วงทีด้วย LIV-24 สร้างความไว้วางใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้งานได้อย่างปลอดภัย อ่านเพิ่มเติม
ป้องกันภัยแบบรอบทิศ ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน LIV-24
ในปี 2022 นับได้ว่าเป็นปีทองสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยภาพรวมถือว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเผชิญกับปัญหาซบเซาจากพิษโควิด-19 มาอย่างยาวนาน เชื่อว่านักลงทุนหรือใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ในฝันสักหลัง คงมีโครงการบ้านหรูในใจอยู่แล้ว อ่านเพิ่มเติม