คมนาคมเร่งเคลียร์ปมทางเชื่อม ด่วนศรีรัช-โทลล์เวย์ ลุยตอกเข็มปลายปีหน้า
เพื่อหาหน่วยงานที่รับผิดชอบเนื่องจากทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ เป็นของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ส่วนทางยกระดับอุตรภิมุขเป็นของกรมทางหลวง (ทล.) จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) คาดว่าเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 60 เพื่อให้ทันต่อการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) เนื่องจากต้องใช้พื้นที่บางส่วนก่อสร้างโครงสร้างทางยกระดับ คาดว่าแล้วเสร็จเปิดบริการปี 2564 จะมีปริมาณจราจรวันละ 64,037 เที่ยวคัน/วัน ในปี 2585 มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นเป็น 75,450 เที่ยวคัน/วัน
"เส้นทางนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ลดปัญหาจราจรติดขัดถนนกำแพงเพชร 2 และวิภาวดี" นายพีระพลกล่าวและว่า สำหรับรายละเอียดทางเชื่อมระหว่างยกระดับอุตรภิมุขและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก เป็นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร แนวเส้นทางเริ่มต้นจากโทลล์เวย์บริเวณพื้นที่ทางแยกรัชวิภา ซึ่งเป็นจุดตัดถนนวิภาวดีรังสิตกับถนนรัชดาภิเษก ซึ่งแนวเส้นทางจะสร้างบนถนนกำแพงเพชร 2 และสิ้นสุดที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางซื่อ ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกตะวันตก ระยะทาง 2.6 กม. ค่าก่อสร้าง 5,900 ล้านบาท บำรุงรักษา 1,000 กว่าล้านบาท รวม 7,217 ล้านบาท เวนคืนจำนวน13 แปลง วงเงิน 94 ล้านบาท
รูปแบบการคัดเลือกเอกชนแบ่งเป็น 2 แบบคือ การคัดเลือกเอกชนรายใหม่ โดยให้แบ่งค่าแรกเข้าของทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ และทางยกระดับอุตรภิมุข ครั้งละ 15บาท หรือเจรจากับผู้รับสัมปทานเดิมทั้ง 2 ราย คือ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีอีเอ็ม) ผู้รับสัมปทานทางด่วนศรีรัช กับ บมจ.ทางยกระดับดอนเมืองผู้รับสัมปทานโทลล์เวย์ ตามพระราชบัญญัติ การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2556
นายกันต์ณธีร์ เนติโรจน์ชัยปาน ที่ปรึกษาบริษัท เอพซิลอน จำกัด และผู้ประสานงานโครงการ กล่าวว่า รูปแบบคัดเลือกเอกชนรายใหม่ มีขั้นตอนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2556 อาจจะทำได้เร็ว หากเป็นการเจรจาเอกชนรายเดิมอาจจะเกิดความล่าช้า เนื่องจากระยะเวลาสัมปทานไม่เท่ากัน อาจะไม่เกิดแรงจูงใจในการลงทุน ทำให้ผลตอบแทนต่ำ อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวต้องใช้ร่วมกับรถไฟชานเมืองสายสีแดงด้วย
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
อ่านข่าวเกี่ยวกับอสังหาฯ ทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวทั้งหมด