เทคโนโลยี IoT เรื่องสำคัญในการเลือกที่อยู่อาศัยยุคใหม่

11 ก.ค. 2019 พลัสทอล์ก
smart command centre, sansiri, plus property


บทความประจำคอลัมน์ PropNow โดย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ 
propholic.com
โดย คุณชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม

โลกกำลังหมุนเข้าสู่ยุคของ Internet of Things (IoT) ไม่เพียงแค่แต่ละอุตสาหกรรมต่างนำอุปกรณ์ IoT และ Big Data Analytics เข้ามาสนับสนุนธุรกิจของตนเท่านั้น อุปกรณ์ เครื่องใช้ภายในบ้านเรือนเองต่างก็สามารถเชื่อมต่อหากันได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด ทีวี ตู้เย็น หรือแม้แต่เครื่องชงกาแฟเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนยุคใหม่

วงการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันการเลือกซื้อโครงการที่อยู่อาศัยมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม ในหลายทำเล หลายระดับราคา ซึ่งก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับผู้บริโภค แต่การจะซื้อบ้านซักหลัง คอนโดซักห้อง การตัดสินใจก่อนเลือกซื้อเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี ทั้งเรื่องทำเล ราคา และตัวโครงการแล้ว 

แต่หากในยุคนี้จะพิจารณาเพียงปัจจัยเท่านั้นไม่ได้อีกต่อไป เพราะที่อยู่อาศัยจะต้องอยู่กับเราไปอีกนาน สิ่งที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตก็คงไม่พ้นเทคโนโลยีในการอยู่อาศัย การพิจารณาให้ลึกถึงเทคโนโลยีที่ผู้พัฒนาโครงการ (Developer) นำมาใช้ในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะ IoT จึงจำเป็นมากในปัจจุบัน

IoT กับการรักษาความปลอดภัย

การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ทำให้เราสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เหล่านั้นผ่านอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องเดินไปกดปุ่มคำสั่งที่ตัวเครื่อง ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และในปัจจุบันมีการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบ IoT กันขึ้นมามากมาย เช่น Homepod จาก Apple,หรือ Google Home เป็นต้น 

นอกจากความสะดวกสบายที่แต่ละโครงการมอบให้ สิ่งสำคัญอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือเรื่อง ความปลอดภัยในการผสานเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ในโครงการมีทั้งบริเวณส่วนกลาง (Off-unit) และภายในห้องพักหรือบ้านพักอาศัย (In-unit) ของโครงการ ที่นอกเหนือไปจากความปลอดภัยในด้านการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปที่เราคุ้นเคย

ก็คือการดูแลโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ประจำโครงการ แต่การรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมด้วย ดูได้จาก

  • การมีระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้เข้ามาในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบคีย์การ์ดในการเข้าถึงห้องพักหรือส่วน Facility ในโครงการ หรือการควบคุม Visitor ควรมีการแลกบัตรประชาชนหรือลงทะเบียนเพื่อตรวจสอบว่าบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปในโครงการว่าเป็นใคร มาติดต่อลูกบ้านท่านใด 
  • มีระบบ CCTV ที่ครอบคลุมในพื้นที่โดยรอบโครงการและในจุดเสี่ยง 
  • มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราในช่วงเวลาต่างๆ 

ซึ่งนี่ก็เป็นองค์ประกอบเบื้องต้นในการดูแลความปลอดภัยในโครงการ

การนำ IoT เข้ามาใช้ในวงการอสังหาฯ

ขอยกตัวอย่างการนำ IoT เข้ามาใช้เป็นแห่งแรกในวงการอสังหาฯ และเป็นแห่งเดียวในตอนนี้ อย่าง Smart Command Centre ศูนย์สังเกตการณ์อัจฉริยะจากส่วนกลาง ตั้งอยู่ที่อาคารสิริภิญโญ ที่ทางพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ใช้บริหารจัดการด้านวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลในโครงการที่พักอาศัยในโครงการนำร่อง เกิดขึ้นจากการพัฒนาร่วมกันกับทางแสนสิริ 

โดยเป็นศูนย์เฝ้าระวังที่เชื่อมต่อระบบต่างๆ จากในโครงการมายังส่วนกลาง เพื่อนำข้อมูล real time มาจัดการรับมือภายใต้ภาวะวิกฤติ ซึ่งเป็นการนำข้อมูลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ส่วนกลาง (Security Monitoring) และระบบวิศวกรรมอาคารส่วนกลาง (IoT Facility Management) 

โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยเฝ้าระวัง สั่งการ และประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง จากส่วนกลาง และสื่อสาร ส่งข้อมูลผ่านไปยังเจ้าของห้อง/เจ้าของบ้านในทางระบบ Application ที่เรียกว่า Home service app

ซึ่งในส่วนของเทคโนโลยีที่นำมาใช้ดังที่กล่าวถึงนั้นจะอยู่ภายใต้การจัดการดูแลของ Smart Command Centre การจัดการลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในภาวะวิกฤตได้ด้วยการเชื่อมกับกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ มีระบบ CCTV - Video Analytics ที่ช่วยตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หากระบบวิเคราะห์ตรวจจับได้ถึงความผิดปกติ เช่น 

มีคนล้มหมดสติในห้องฟิตเนส กล้องจะจับภาพและแจ้งเตือนไปยังศูนย์ควบคุม เพื่อตรวจสอบและรีบประสานเจ้าหน้าที่หน้างานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที 

นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานการณ์เดินตรวจตราตามจุดต่างๆ ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโครงการ ผ่านระบบ Real-time Guard Tour เพื่อการทำงานที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในโครงการได้ตลอด 365 วัน และ 24 ชั่วโมง สามารถจัดการเหตุที่เกิดได้ในทันที 

รวมถึงยังมีการเฝ้าระวัง monitor ได้แบบ Real-time และมีการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ จึงช่วยแก้ไขและลดความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดการณ์ไม่คาดฝันได้อีกด้วย

การนำ IoT มาใช้ในการบริหารจัดการในโครงการที่พักอาศัยจะช่วยเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ในแต่ละด้าน ให้สามารถดูแลลูกบ้านและผู้พักอาศัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือสามารถจัดการเหตุได้ทันท่วงที เพราะเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดสามารถเกิดได้ทุกเมื่อตลอด 24 ชั่วโมง 

ดังนั้นการเลือกซื้อโครงการที่พักอาศัยที่มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นมืออาชีพสามารถดูแลช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา ก็จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้เราได้พักอาศัยอย่างปลอดภัยและสบายใจครับ

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร รับบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพกับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง
สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการได้ที่ 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ



เรื่องเด่นน่าสนใจ