5 เรื่องต้องรู้ เตรียมพร้อมรับมือ น้ำประปาเค็ม
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากเรื่องค่าฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นเรื่องน่ากังวลของชาวกรุงแล้ว ยังมีอีกเรื่องคือคุณภาพของน้ำประปาของชาวกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา* หรือบางคนก็อาจจะยังไม่ทราบเรื่องนี้ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
Plus Property ได้สรุปรวบรวมข้อมูลสำคัญของปัญหาน้ำประปาเค็ม และการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะน้ำประปาเป็นส่วนหนึ่งที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะนำมา ทำอาหาร ดื่ม หรืออาบ แต่เมื่อตอนนี้กำลังเกิดวิกฤตน้ำประปาเค็ม พลัสฯ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจถึงปัญหา และรับมือกันได้ครับ
ปัญหาของน้ำประปาเค็ม เกิดจากอะไร?
เนื่องจากเกิดจากภัยแล้งที่รุนแรง และอยู่ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง น้ำในเขื่อนมีปริมาณไม่เพียงพอมาผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเค็มผ่านเข้ามาในระบบผลิตน้ำประปา การประปานครหลวงไม่สามารถกำจัดความเค็มอกจากน้ำดิบได้ จึงส่งผลให้รสชาติของน้ำประปาในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา* เปลี่ยนไป สามารถรับรู้ถึงรสชาติกร่อยเล็กน้อยในบางช่วงเวลา
ตามปกติแล้วในน้ำประปาควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ถ้าเจือปนในน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำมีรสกร่อยถึงเค็มได้ ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
ซึ่งในสถานการณ์น้ำประปาเค็มนี้ระดับโซเดียมหรือเกลือพุ่งขึ้นไปถึง 400 – 800 มิลลิกรัมต่อลิตร ในขณะที่ค่าปกติของน้ำประปาจะมีโซเดียมประมาณ 100-150 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น ทำให้ระดับโซเดียมในน้ำเพื่อการบริโภคมีปริมาณสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่มีผลต่อความน่าดื่มและการยอมรับ
วิธีเตรียมรับมือแก้ปัญหา น้ำประปาเค็ม มี 5 ขั้นตอน ดังนี้
- ผู้ที่มีสุขภาพปกติสามารถบริโภคน้ำประปาได้ โดยยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ด้วยรสชาติที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลต่อความน่าดื่ม ทั้งนี้ ความเค็มในรูปของโซเดียมในน้ำประปา ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณโซเดียมในอาหารทั่วไปที่บริโภคในชีวิตประจำวัน
- การใช้น้ำประปาเพื่อปรุงอาหารในช่วงเวลานี้ ควรลดการเติมเครื่องปรุงรสให้น้อยลง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงปรุงรส งดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด หรือเปลี่ยนเป็นใช้น้ำดื่มบรรจุขวด ปิดสนิทแทนจะดีกว่า
- กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำประปาโดยตรง ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันสูง โรคเบาหวาน โรคทางสมอง ผู้สูงอายุ และ เด็กเล็ก
- ให้ระวังน้องหมา น้องแมวแก่ หรือมีน้องๆ ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหัวใจ กินน้ำประปาเค็ม ควรให้น้ำกินจากขวดหรือน้ำกรอง
- แพทย์แนะนำทางเลือกสำหรับการหลีกเลี่ยงน้ำประปาเค็ม คือ ผลไม้ที่ฉ่ำน้ำ และอาหารดื่มได้ ผักผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ และมีประโยชน์มากต่อร่างกาย ได้แก่ แตงกวา , บล็อคโคลี่ , มะเขือเทศ , แตงโม , โยเกิร์ต , เบอร์รี่ , ส้ม นอกจากได้รับน้ำทดแทนแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวชะลอวัย หรือบริโภคอาหารประเภทซุปและน้ำต้มกระดูก (ที่ไม่ปรุงรสเพิ่ม) ก็สามารถทดแทนการบริโภคน้ำได้
และเนื่องจากคุณภาพน้ำประปาที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ เนื่องจากมาจากภัยแล้งที่รุนแรง และอยู่ในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง มักจะเกิดในช่วงประมาณ มกราคม-พฤษภาคม ของทุกปี Plus Property จึงอยากขอความร่วมมือทุกท่านให้ช่วยกันประหยัดน้ำในช่วงนี้ด้วย โดยสามารถกักเก็บน้ำไว้ในปริมาณที่เหมาะสม และหมั่นตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำ ท่อน้ำต่างๆ ภายในบริเวณบ้าน และห้องชุด เพื่อนำไว้ใช้ในสภาวะภัยแล้งนี้ครับ
ที่มา :
bangkokbiznews.com
mthai.com
tnnthailand.com
matichon.co.th
หาคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดพร้อมอยู่, คอนโดกรุงเทพ, คอนโดให้เช่า, คอนโดมือสอง, คอนโดใกล้รถไฟฟ้า, คอนโดสุขุมวิท
บทความที่เกี่ยวข้อง:
-
4 ขั้นตอนมือใหม่ปลูกผักไว้กินเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน
- 7 วิธีการดูแลพื้นที่สีเขียว ในโครงการคอนโดฯ และหมู่บ้านให้สวยงามน่าอยู่
- เราจะเจอประสบการณ์แบบไหน หากได้ผู้ดูแลอาคารที่ดีมาบริหารจัดการ
สนใจติดต่อเพื่อรับข้อมูลด้านบริหารโครงการได้ที่
02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ
