ย้อนรอยอสังหาฯ ก่อนจะมาเป็นพร็อพเทค (Prop Tech)
หากย้อนไปช่วงปี 1990-2000 ที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในไทยและเริ่มมีจำนวนผู้ใช้งานแพร่หลายมากขึ้นอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากช่วงแรกที่การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นแบบออฟไลน์ ผู้ขายต้องประกาศผ่านสื่อสิ่งพิมพ์อย่างใบปลิว หนังสือพิมพ์หรือบิลบอร์ด ทางผู้ซื้อก็ต้องเดินทางไปดูบ้านที่โครงการด้วยตนเองจนกว่าจะเจอหลังที่ถูกใจและติดต่อกลับไปยังผู้ขาย จนมาสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่ในการนำเสนอข้อมูลและพื้นที่ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อีกช่องทางหนึ่ง
แต่ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่เป็นความท้าทาย เพราะช่วงนั้นผู้ประกอบการยังเน้นไปที่การลงทุนซื้อที่ดินและพัฒนาวิธีการในการก่อสร้างเป็นหลัก ส่วนด้านนายหน้าอสังหาฯ ก็ไม่แชร์ข้อมูลที่ตนมีเพราะบางส่วนเชื่อว่าเป็นข้อได้เปรียบในการขาย หรือแม้แต่การจัดเก็บข้อมูลการซื้อขายต่างๆ ที่ยังไม่เป็นระบบและไม่มีการอัพเดท เป็นต้น
การเกิดขึ้นของพร็อพเทค (PropTech)
แม้จะมีความท้าทายต่างๆ ในวงการอสังหาฯ ตามที่กล่าวมานั้น การลงทุนด้านพร็อพเทค (Prop Tech) ก็ยังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ขอยกตัวอย่างที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่พร็อพเทค(Prop Tech) มีความชัดเจนอย่างยิ่งจากการก่อตั้งของ Yardi ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ และ CoStar Group ผู้ให้บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และเป็นแหล่งซื้อ-ขายสินค้าและบริการออนไลน์ ซึ่งทั้งสองบริษัทเป็นรายแรกๆ ที่ก่อตั้งขึ้นที่อเมริกา และเปรียบเสมือนเป็นเชื้อเพลิงที่ช่วยให้เกิดสตาร์ทอัพที่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านอสังหาฯ อีกหลายแห่งในอนาคต
เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในวงการอสังหาฯ หรือพร็อพเทค (Prop Tech) ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัย สำนักงาน หรือช่วยการขาย รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงิน การจองห้อง หรือการติดต่อบริการหลังการขาย เริ่มบูมอย่างจริงจังในช่วงปี 2003-2006 เมื่อมีการใช้งานสมาร์ทโฟน และการเชื่อมต่อผ่านระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) ที่รองรับการทำงานของผู้ใช้งานในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่าย การจัดเก็บข้อมูล การทดสอบระบบหรือติดตั้งฐานข้อมูล หรือการใช้งานซอฟต์แวร์เฉพาะด้านในธุรกิจต่างๆ ซึ่งเอื้อให้สตาร์ทอัพหลายแห่งอย่าง Zillow Trulia และ Redfin สามารถพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับทั้งการอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์อย่างต่อเนื่องและแสดงให้กลุ่มนักลงทุนเห็นความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนรูปแบบวงการอสังหาฯ ด้วยเทคโนโลยีในอนาคต

ที่มา: www.cbinsights.com
การเติบโตของ Start up ด้านพร็อพเทค (PropTech)
ข้อมูลจาก Deloitte Commercial Real Estate Outlook 2018 ระบุว่าในช่วงทศวรรรษที่ผ่านมาทั่วโลกพบจำนวนสตาร์ทอัพที่ลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีในอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างทวีคูณ จาก 176 แห่ง ในปี 2008 เป็น 1,274 แห่ง ในปี 2017 อีกทั้งยอดเงินลงทุนสะสมในสตาร์ทอัพเหล่านี้เพิ่มขึ้นจาก 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 33.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีนี้ด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่างสตาร์ทอัพในปี 2017 ที่ประสบความสำเร็จ เช่น Compass ที่สร้างแพลตฟอร์มสำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ก็สามารถระดมทุนได้ถึง 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Lemonade ที่เป็นสตาร์ทอัพเกี่ยวกับประกันภัยที่อยู่อาศัยก็สามารถระดมทุนได้ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ หนึ่งในสตาร์ทอัพที่สำคัญในสหรัฐอเมริกาอย่าง WeWork ที่ลงทุนเกี่ยวกับออฟฟิศ และ Co-working space ก็ได้รับทุนถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น (ที่มา: Venture Scanner Real Estate Tech Report Q1/2017)
ทั้งนี้พบว่า 68% ของกลุ่มสตาร์ทอัพพร็อพเทค(PropTech) ก่อตั้งขึ้นช่วงปี 2011 และจากปี 2011-2016 พบยอดการลงทุนในพร็อพเทค(PropTech) เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 53% ซึ่งกลุ่มสตาร์ทอัพเหล่านี้กระจายตัวอยู่ทั่วโลก ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา จีนและออสเตรเลีย เป็นต้น

การลงทุนด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกปี 2006-2016
ที่มา: Venture Scanner Real Estate Tech Report Q1/2017
นอกจากนี้ในปี 2014 การที่กูเกิ้ล (Google) เข้าซื้อกิจการของเนส แลบส์ (Nest Labs) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาระบบอัจฉริยะที่ตรวจจับควันและอุปกรณ์ภายในบ้าน ด้วยมูลค่าถึง 3,200 ล้านดอลลาร์ ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า แม้แต่ผู้เล่นยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิ้ล (Google) ก็เล็งเห็นความเป็นไปได้ที่ตลาดพร็อพเทค(PropTech) จะเติบโตในอนาคต ทั้งนี้ปี 2017 ถือเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับวงการสตาร์ทอัพพร็อพเทค(PropTech) นอกจากจะสามารถระดมทุนทางธุรกิจได้เป็นจำนวนมากและสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบรับกับธุรกิจที่มีอยู่ดั้งเดิมแล้ว ยังมีสตาร์ทอัพที่นำเสนอการใช้งานที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ในรูปแบบที่ต่างออกไปอย่าง AirBnB ที่สื่อสารกับผู้บริโภคว่า “บ้านก็สามารถเป็นโรงแรมได้” อีกด้วย

การกระจายตัวของสตาร์ทอัพที่ลงทุนในเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกปี 2017
ที่มา: Venture Scanner Real Estate Tech Report Q1/2017
พร็อพเทค (Proptech) กับ อสังหาฯ ไทย
จากกระแสการลงทุนในพร็อพเทค (Proptech) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ผู้ประกอบการหลายแห่งในประเทศไทยเริ่มปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงและมีการลงทุนในสตาร์ทอัพเพื่อนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาต่อยอดธุรกิจมากขึ้น ยกตัวอย่างบมจ.แสนสิริ ที่พัฒนาโครงการ Siri Ventures Partnership เพื่อร่วมลงทุนกับพันธมิตรและกลุ่มสตาร์ทอัพทั้งในและต่างประเทศ ด้วยงบประมาณ 1.5 พันล้านบาท ในกรอบเวลา 3 ปีนับจากปี 2018 โดยเน้นลงทุนใน 4 ส่วนที่สำคัญ ได้แก่
· พร็อพ เทค (Prop Tech) นวัตกรรมส่งเสริมการซื้อขายรูปแบบใหม่ และการบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์
· ลิฟวิ่ง เทค (Living Tech) นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่าง Home Service Application
· เฮลท์แอนด์เวลเนส เทค (Health and Wellness Tech) นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย
· คอนสตรัคชั่น เทค (Construction Tech) เทคโนโลยีสำหรับการออกแบบ ก่อสร้าง และการควบคุมคุณภาพ
นอกจากแสนสิริแล้วยังเห็นความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอีกหลายราย ตัวอย่างเช่น
บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ อนุมัติตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บจก. เออร์บันเทค เวนเจอร์ส เพื่อร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ และมีการเปิดตัว Ananda Click Now แพลตฟอร์มการจองคอนโดฯ ออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเลือกห้องและเลือกยูนิตได้ด้วยตัวเองผ่านแอพพลิเคชั่น
AP Digital Community ของ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) การใช้ชีวิตในโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่โดยผสานแนวคิดอินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ที่ระบบควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้นภายในบ้านสามารถสื่อสารและประมวลผลร่วมกัน รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงที่คิดคำนวณและตอบโต้กับเจ้าของบ้านได้ หรือระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ฉลาดมากขึ้น เป็นต้น
SENA 360 Service ของ บมจ. เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ บริการแจ้งซ่อมออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งติดต่อและติดตามผล หรือการนัดหมาย รวมไปถึงการแจ้งเตือนลูกค้าเพื่อตรวจรับบ้านก่อนโอน เป็นต้น
Origin Digital Butler ของ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ แอพพลิเคชั่นงานบริการหลังการขายให้กับลูกบ้านภายใต้ 4 แนวคิด ได้แก่ การตอบโจทย์ดิจิทัลด้วยเซอร์วิสแอพพลิเคชั่น การบริการระดับโรงแรมการ การร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้อยู่อาศัย และการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ
บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บจก. เอสซี เอเบิล และร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพอย่างฟิกซิ (Fixzy) แอพพลิเคชั่นรวมช่างของไทย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยเรื่องบริการหลังการขายด้านงานซ่อมแซม ดูแลรักษาบ้านและงานบริการต่างๆ เช่น ล้างแอร์ ทำความสะอาด เป็นต้น
พร็อพเทคในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวเพราะในอดีตมีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องเพียงแต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นและอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เอื้อให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ยุคพร็อพเทคได้อย่างเต็มตัว จากยุคที่เน้นพัฒนาแพลตฟอร์มที่เอื้อให้การทำธุกิจแบบเดิมง่ายขึ้น เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับอสังหาฯและการสร้างพื้นที่ซื้อขายออนไลน์อย่าง PropertyGuru และ DD Property มาสู่พร็อพเทคสตาร์ทอัพที่ท้าทายการทำธุรกิจแบบเก่า เช่น AirBnB ที่สามารถดึงส่วนแบ่งลูกค้ามาจากตลาดโรงแรมได้ หรือ ธุรกิจพื้นที่ทำงานให้เช่า (Co-working space) เช่น HUBBA และ WeWork เป็นต้น
ซึ่งในอนาคตน่าจะมีโอกาสได้ห็นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ในอสังหาฯ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรดาระบบอัจฉริยะ หรือ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ที่นำมาผูกเข้ากับคอนเซป Smart Home ให้เราสามารถควบคุมหรือสั่งการอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และ การนำ Big Data ในธุรกิจอสังหาฯ มาวิเคราะห์อย่างซับซ้อนเพื่อใช้วางแผนการลงทุนทั้งในเชิงการอยู่อาศัยและในเชิงพาณิชย์ รวมไปถึงการนำระบบ Virtual Tour 360 หรือ VR ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเห็นภาพห้องตัวอย่างและสภาพโครงการแบบเสมือนจริง เป็นต้น
หากพิจารณาในแง่ของการอยู่อาศัย นวัตกรรมเหล่านี้นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดระยะเวลาในการดำเนินการและช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว หากพิจารณาในเชิงสังคม นวัตกรรมเหล่านี้เปรียบเหมือนลูกศรชี้ทิศทางการเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมและลักษณะการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในสังคม แต่ในแง่ของผู้ประกอบการ พร็อพเทคที่กำลังเข้าสู่กระแสหลักในยุคที่ธุรกิจไร้พรมแดนและมีผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่พร้อมจะเข้ามาแข่งขันในวงการเสมอ คงไม่มีใครอยากเป็นเหมือนร้านเช่าวิดีโอในยุคที่ผู้บริโภคหันไปดูสื่อออนไลน์หรือสตรีมมิ่งในอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกันหมด การปรับตัวอยู่ตลอด การเลือกลงทุนให้ถูกที่และสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันให้ได้มากที่สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจยังคงเข้มแข็งและเติบโตต่อไปได้ในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.cbinsights.com/research/industry-market-map-landscape/
https://www.forbes.com/sites/valleyvoices/2018/02/13/future-of-real-estate-tech/#22b0a6dc1c13
https://gomedici.com/property-technology-proptech-fintechs-next-frontier/
https://www.slideshare.net/NathanPacer/venture-scanner-real-estate-tech-report-q1-2017
หาข้อมูลคอนโดที่คุณต้องการได้ที่นี่: คอนโดสุขุมวิท, คอนโดให้เช่า, คอนโดจตุจักร, ขายคอนโด, คอนโดทองหล่อ, ทรัพย์สินรอการขาย, คอนโดพระราม 4, ระบบรักษาความปลอดภัย, บ้านหรู, คอนโดหรู
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ให้คำปรึกษาฝากขายปล่อยเช่า และการซื้อขายคอนโดมือสอง ครบทุกขั้นตอน บริหารโครงการที่พักอาศัย/โครงการเพื่อการพาณิชย์ บริหารงานขายและการตลาดโครงการ ด้วยทีมงานระดับคุณภาพ กับประสบการณ์ที่มากกว่า 20 ปี เติมเต็มทุกความต้องการอย่างแท้จริง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 688 7555 หรือ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาข้อมูลการบริการของเราเพิ่มเติมครับ